ในยุค 2020 นี้ เป็นยุคสมัยที่สถานการณ์ตึงเครียดตั้งแต่ต้นปีกันเลยทีเดียว โดยจะเห็นได้ตามสื่อต่างๆที่ลงข่าวประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ข่าวก่อการร้าย ข่าวอาชญากรรม ที่มีให้พบเห็นได้ตามหน้าเพจข่าวต่างๆ เกือบทุกวัน ซึ่งจะเห็นได้ว่ามันค่อนข้างจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ดูแล้วก็เกิดอาการหดหู่ ไม่สบายใจ รวมถึงสภาพอากาศ ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ฝุ่น P.M 2.5 อีก ตอนนี้ประเทศไทยก็ได้ไต่อันดับขึ้น อันดับ 1 ของโลก แล้วด้วย อีกทั้งโรคภัยไข้เจ็บที่มาแรงไม่น้อยหน้ากันเลย ก็หนีไม่พ้น Covid 19 เรียกได้ว่า ใช้ชีวิตกันแบบระแวงกันไปข้างนึงเลยทีเดียว สิ่งเหล่านี้มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเศรษฐกิจตอนนี้ ดังนั้น จากที่เราเครียดๆ กับเรื่องส่วนตัวอยู่แล้ว เจอแบบเข้าไป ยิ่งเครียดไปกันใหญ่
วันนี้มีวิธีสร้างความสุขเล็กๆ น้อย ๆ ด้วยตัวเองซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ สามารถทำได้จริง ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอารมณ์ไหน ทำงาน เรียน หรือจะรถติดฝนตก เพื่อนไม่รัก แฟนทิ้ง มาฝากกันพร้อมแล้วก็มาเริ่มข้อแรกกันเลย
วิธีที่ 1 เลิกคิดเรื่องที่จะทำให้เราเครียด
เลิกคิดเรื่องที่จะทำให้เราเครียด ฟังแล้วอาจจะดูยาก แต่เราต้องบอกตัวเองเสมอ พักก่อน หยุดก่อน แล้วเริ่มลงมือหากิจกรรมที่เราชอบทำค่ะ เช่น การเล่นเกมส์ การช้อบปิ้ง หากไม่ต้องการออกไปข้างนอก ก็ช๊อปปิ้งออนไลน์ก็ได้คะ การเล่นกับสัตว์เลี้ยง ตัดแต่งต้นไม้ โดยส่วนตัวผู้เขียนจะชอบเล่นกับหลานๆ ค่ะ เพราะเขาจะมีอะไรให้เราได้คิด ได้ดูแลตลอด ไม่ว่างไปชั่วขณะเลยค่ะ เหนื่อยดี
วิธีที่ 2 ลดความวุ่นวาย
หากสถานที่ที่เราอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่พัก มันสร้างความวุ่นวายให้กับเรา บางคนอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ มีเรื่องราวเยอะแยะมากมาย ไม่เป็นส่วนตัว ให้ลองออกไปสูดอากาศข้างนอกค่ะ ร้านกาแฟก็ใช้ได้ดีทีเดียวค่ะ หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ มีต้นไม้ มีลำธาร นั่งทานกาแฟไป ฟังเสียงน้ำไป ก็ช่วยให้เราสงบได้สักพักเหมือนกันค่ะ
วิธีที่ 3 ทิ้งตัวลงบนที่นอน
หากไม่ได้ออกไปไหน ให้เอนกายนอนบนเตียงหรือโซฟา ถ้าเป็นแฟนเกาหลีจัดไปเลยกับซีรีย์ที่เราชอบแล้วก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสิ่งที่เรารัก เสื้อผ้าหน้าผมอย่าได้ไปสนใจมากนัก เพราะตอนนี้โลกเป็นของเราเราจะทำอะไรที่สบายใจก็ได้หรือ เปิดเพลงคลอไป เน้นเพลงที่เราชอบ แต่ไม่เน้นเพลงจังหวะหนักๆ นะคะ โดยส่วนตัวผู้เขียนชอบแนว Jazz ค่ะ เดี๋ยวนี้เพลงทำนองนี้จะ cover เพลงดังๆ ที่เรารู้จักมา แล้วทำเป็นสไตล์ Jazz มันทำให้ฟังแล้ว รู้สึกอารมณ์ผ่อนคลาย ฟังไปเรื่อยๆ อาจจะจิบกาแฟสักแก้ว ด้วยก็ได้ค่ะ
วิธีที่ 4 ขนมจะเยียวยาทุกสิ่ง
ทานอาหารที่เราชอบค่ะ บางคนกำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก สร้างกล้ามเนื้อ แต่ถ้าเกิดความเครียดขึ้นมาลองพักดูสักวันนะคะ ลองทานอาหารที่เราชอบ โดยไม่ต้องคำนึงแคลอรี่ ที่จะได้รับ ขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม ชา กาแฟ เค้ก แล้วนั่งดูหนังเก่าๆ ที่เราเคยดูสมัยโน้น จนจำไม่ได้แล้วว่าเนื้อเรื่องเป็นยังไง กลับมาดูอีกที มันก็มีความสุขดีนะคะ
วิธีที่ 5 รวมตัวกับแก็งค์เพื่อนสนิท
การนัดเจอเพื่อนสนิทเก่าๆ ที่อยู่ไลน์กรุ๊ป ค่ะ อาจจะนัดยากหน่อย บางคนว่างไม่ตรงกัน แต่ถ้าลองนัด แล้วนัดได้ สัก 4 -5 คน ก็จะดีค่ะ เพราะการที่เราได้เจอเพื่อนเก่าๆ ต่างคนต่างมีเรื่องราวค่ะ บางคนสวยขึ้น อ้วนขึ้น บางคนมีหน้าที่การงานดี บางคนเป็นแม่บ้าน บางคนเรื่องราวอาจจะแย่กว่าเราด้วยซ้ำค่ะ หากเราได้พบปะพูดคุยกัน จะทำให้ได้มีวิธีคิด มีทัศนะคติใหม่ๆ เกิดขึ้น
วิธีที่ 6 รักตัวเองดูแลตัวเองให้สวยเสมอ
การหันมาดูแลตัวเองค่ะ หากเป็นผู้หญิง ก็อาจจะไปเข้าร้านทำผม ตัดผม ทำสีผม ลองเปลี่ยนแปลงตัวเองดูค่ะ ไม่เคยเพ้นเล็บ ไม่เคยดูแลผิวพรรณ ก็ลองเข้าสปาดูค่ะ การนวดก็เป็นวิธีผ่อนคลายที่ดีเหมือนกัน เพราะผู้เขียนลองมาแล้ว หากท่านใดมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดี แนะนำให้เข้าคอร์สฟิตเนส ซึ่งการออกกำลังก็จะทำให้หุ่นเราเฟิร์มขึ้น ดูดีขึ้น พอหันมามองตัวเองในกระจก พบว่าเราสวยขึ้น หน้าตาสดใส ทำผมทรงนี้แล้วดูดีกว่าเดิมนะ น่าจะทำตั้งนานแล้ว หุ่นก็เฟิร์มขึ้น ใส่เสื้อผ้าสวยขึ้น มันก็จะทำให้จิตใจเราดีตามไปด้วยค่ะ
หรือหลายคนอาจจะใช้วิธีการดูแลสุขภาพ ด้วยการเล่นกีฬาที่เราชอบ ปล่อยให้ชีวิตมันเดินไปตามเข็มนาฬิกา ไม่ต้องไปสนใจเรื่องเวลาหรือว่าตอนนี้จะต้องทำอะไร ต้องไปวางแผนอะไรให้มาก เพราะถึงอย่างไรเดี๋ยวทุกอย่างมันก็จะต้องมาอยู่แล้ว ทำในสิ่งที่รักบ้างจะได้ไม่เหงาไม่เป็นโรคยอดฮิตอย่าง โรคซึมเศร้า
ทั้ง 6 วิธี นี้เป็นวิธีง่ายๆ ที่บางทีบางคนอาจจะทำอยู่แล้ว แต่บางคนอาจจะลืมไปกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ ลองหาเวลาทำบ่อยๆ นะคะ ให้เวลากับตัวเอง รักตัวเองเยอะๆ คำว่าว่ารักตัวเองในที่นี้ ผู้เขียนหมายถึงว่าทำยังไงก็ได้ค่ะ ให้ตัวเรามีความสุข โดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นให้มากนัก ให้เวลาตัวเองทำในสิ่งที่ชอบ ตามใจตัวเองค่ะ แล้วความสุขเล็กๆ ก็จะเกิดขึ้นในใจเรา แต่หากว่าใครเครียดมากถึงขั้นไม่สบาย ผู้เขียนแนะนำให้ไปพบแพทย์ค่ะ เพราะเค้าจะมีวิธีวิเคราะห์ และการรักษาที่ถูกจุดค่ะ